หนังมันย้อนยคเป้นสมัยกำลังภายใน แต่เเต็มไปด้วยเรื่องราวเศร้าสร้อย กดดัน การตัดต่อเลิศเลอ และหนังเศร้ามากๆ เป็นหนึ่งในหนังฮ่องกงที่งามที่สุดที่เคยดู คู่ควรจะมาต่อสู้กับ SPRING TIME IN SMALL TOWN ของ Fei Mu
ซีนที่งดงามมากคือนายกองแอบเขียนจดหมายรักเป็นบทกวีวางไว้บนโต๊ะของเธอ เธอหญิบมาอ่าน ยิ้มคนเดียวแล้วเอาหนังสือไปเก็บมาสอนหนังสือเด็ก นายกองเดินเข้ามา มองเห็นว่าจดหมายของเขาหายไปจากโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ทั้งคู่มองตากันแป๊บเดียว งดงามมาก
ซีนต่อมา เธอพยายามจะแต่งหน้าเพื่อจะออกมากินเลี้ยงในงานไหว้พระจันทร์ ทาปากไว้ด้วย ในครัวนายกองไล่จับจิ้งหรีดเข้ามาในครัว เธอช่วยขาจับมือเลยไปโดนกัน เธอชักมือกลับ บกให้เขาออกไปข้างนอก เธอถือกับข้าว แอบเช็ดปาก เช็ดหน้า ดึงปิ่นปักผมออก ออกไปกินเลี้ยง พาแม่ผัวเข้านอน นอนฟังเสียงนากองอ่านบทกวีกับหลวงจีนและลูกสาวเธอ
ในฉากท้ายเรื่องเธออยุ่คนเดียว ทอผ้า แล้วคิดถึงอดีตเป็นfragment หนังตัดต่อรุนแรงมาก มีภาพของนายกอง ของเฒ่าจางคนรับใช้ จิ้งหรีด เธอวิ่งออกจากบ้าน ทำได้ดีที่สุดคือเชือดคอแม่ไก่ตัวหนึ่ง โผเผโดดเดี่ยวไปที่แม่น้ำ
หนังอภิปรายถ่ายทอดความุกข์ของหญิงจีนที่ดีออกมาอย่างละเมียดงดงาม งดงามไม่ใช่เพราะมันเต็มไปด้วยฉากเก็ยอารมณือย่างเดียว แต่เพราะมันมีฉากที่แสดงความรุนแรงปั่นป่วน รวดร้าวใจ หนังฉายภาพลูกสาวที่กล้ายั่วผู้ชาย และการที่แม่ลูกอาจจะชอบผู้ชายคนเดียวกัน ฝ่ายแม่ได้แต่เก็บงำกัยตัวเองไว้เรื่อยๆการตัดต่อของหนังฉายอารมณ์ปั่นป่วนของแม่ แต่การแสดงของนักแสดงกลับเลือกเก็บงำไว้งดงามละเมียดละไม มากๆ ฉากท้ายๆของหนังเมื่อทั้งบ้านเหลือแต่นางกับเฒ่าจาง มันงดงามามาก เพราะแม่เฒ่าจางจะผลุกดอกเก๊กฮวยให้นาง หรือรักนางเพียงใดเขาก็รู้ว่าเขาจะอยู่กับนางไม่ได้อีกแล้ว เขาขอร้องให้นางรับลูกมาอยู่หรือชวนนายกองมา แต่นั่นเป้ฯสิ่งสุดท้ายที่จะทำได้ เพราะนางก็ยังคงหลงรักนายกองอยู่ มันจึงลงเอยอย่างเงียบและเศร้ามากๆ