TALKING HEART (THU KHA 1968/MYANMAR)วจีหัวใจ

หนังดราม่าน้ำตาเช็ดหัวเข่าอันหมดจดงดงามจากพม่าเรื่องนี้ตบหน้าผู้ชมเช่นอิฉันฉาดใหญ่ที่ได้พบว่า หนังน้ำเน่าพม่าซึ่งสาบสูญไปเสียเกือบหมดนั้นเคยไปได้ไกลกว่าหนังไทยแค่ไหน

ว่ากันว่า หนังไม่มีฟลิ์มเหลืออยู่แล้ว ฉบับที่นำมาฉายคือฉบับที่ทีมงานได้มาจากสถานีโทรทัศน์ในรูปแบบวีดีโอแล้วมาจ้าง NGOและแรงงานพม่าช่วยกันทำซับขึ้นมา การฉายหนังเรื่องนี้คงเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและอาจหาดูไมไ่ด้อักเลยชั่วนิรันดร์

หนังเริ่มจากอุปสรรครักของคู่รักน่านิยม อย่างมาว ลูกสาวคนเดียวของยายเจ้าแม่เพชรไฮโซย่างกุ้ง กับ เมียวไข่ ลูกชายทนายคนดัง ที่บังเอิญยายแม่ปากปลาร้ารู้มาว่าที่จริงเป็นลูกบุญธรรมของเพื่อนสนิทคุณทนาย ซึ่งเป๋็นผู้ว่า แต่ว่าบังเอิญไปช่วยชีวิตอีสาวชาวประมงบ้านนานางหนึ่งด้วยการปลดหนี้ให้แล้วดก็รวบหัวรวบหางทำเมีย เปลี่ยนชื่อนางเป็น มีมี่ไข่ นางมีมี่ไข่ย้ายมาย่างกุ้งก็เพริดหูเพริดตากับชีวิตสาวไฮโซ จนในที่สุดนางคบชู้สู่ชายกับโกบาจอก ยิ่งตอนที่ท่านผู้ว่าป่วยเข้าโรงบาล นางก้ไม่เลี้ยงลูกชาย แต่ให้ชู้หอบเงินหนีไป

เวลาล่วงผ่านไอ้ชุ้ออกลาย ท่านผู้ว่าตายดับไปสั่งเสียให้คุณทนายเอาเด็กไปเลี้ยง แต่อย่าให้เจอแม่มันเป็นอันขาด คุณทนายก็เลี้ยงเยี่ยงลูก นางมีมี่ไข่ตาสว่างว่าไอ้ชู้มันโคตรชั่วแต่ทุกอย่างก็สายไป นางเอาสมบัติที่มีไปฝากหลานท่านผู้ว่าเพื่อให้เป็นมรดกของลูก แต่ไอ้ชู้ชั่วตามมาเจอ พลั้งมือฆ่าหลานท่านผู้ว่าตาย ติดคุกไปอีกคน นางมีมี่ไข่คิดถึงลูกมากเลยมาขอดูหน้าลูกบ้านคุณทนาย สัญญาว่าจะไม่มากวนใจอีกและจะส่งเงินมาเดือนละห้าร้อยจ๊าด นางกอดลูกชายที่กำลังเล่นเป็นหมอร่ำให้

ย้อกลับมาสมัยปัจจุบัน สองหนุ่มสาวตัดสินใจหนีตามกันมาอยู่บ้านฝ่ายชาย นางแม่เป็นฟืนไฟก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าสารกลายเป็นข้าวสุกเสียแล้ว นางก็เลย ตามเลย

ย้อนกลับไปยัีงชีวิตนางมีมี่ไข่ นางต้องหาเงินมาอุ้มชูลูกเลยตัดสินใจไปเป็นนางเสือค้ายา โดนตำรวจจับได้ ยิงเข้าที่หน้าจนมีแผลเป็นนางติดคุกอยูหลายปี ร่างกายก็ออ่นล้า ใกล้ตายเต็มแก่ ออกจากคุกนางก็ไปหขอดูลูกเป็นครั้งสุดท้าย ในวันที่ลูกชายได้หลาน นางได้ตายในอ้อมแขนของลูกที่ไม่รู้จักนางชั่วนิรันดร์

จริงใจไม่จิงโจ้ หนังเดินหน้าเล่าเรื่องด้วยความรู้สึกร่วมกับตัวละครจริงๆท หนังไม่ได้เลือกทางออกง่ายๆว่า นางมีมี่ไข่ที่แท้โดนหลอก นางเป็นสาวบริสุทธิ์ที่น่าสงสารซึ่งซวยตลอดศก แล้วขยี้ให้บี้แบนแบบหนังไทย นางคือหญิงคนชั่วจริงอะไรจริง และโดนชีวิตเล่นงานจริงๆ แต่หนังโฟกัสที่ความเป็นแม่ แม้จะชั่วช้าอย่างไร ถึงที่สุดนางมีมี่ไข่ก็ขอแค่ได้พบหน้าลูก

ข้อขัดแย้งของแม่ลูกสองคู่ในหนัง (นางเจ้าแม่เพชรกับลูกสาว และ เมียไข่กับมีมี่ไข่ ) แสดงภาพแม่ที่ร้ายกาจและลูกที่รักแม่ กลับหัวภาพแบบ ลูกใจดำกับแม่แสนดี ความเป็นแม่ในที่นี้จึงไม่ใช่สิ่งบริสุทธิ์ แบบที่ว่า แม่คือแม่พระ แต่แม่ในเรื่องคือนางปาปลาร้าช่างยุ และนางหญิงคบชู้

หนังแยกความเป็นแม่ออกจากตัวของแม่ได้อย่างน่าสนใจ (แม้เราอาจจะไม่เชื่ออย่างตัวหนัง แต่นะ นี่มันหนังแบบโลกเก่า) ความเป็นแม่ย่อมต้องรักลูก(ดั่งนิทานแม่ที่เชือดหัวใจตัวเองให้ลุกไปถวายเจ้าหญิง ทั้งที่ร่างแตกดับหัวใจยังเรียกหาลูก) ความเป็นแม่เป็นสิ่งสากล ไม่ว่าจะเป็นหญิงงามเมือง หรือผู้ดีมีเงิน ในหนังเรื่องนี้ล้วนเป็นห่วงเป็นใยลูกๆของตน ยิ่งหนังจบในฉากการคลอดลูก็กแสดงให้่เห็นว่าความเป็นแม่ผุดขึ้นราวกับมันงอกได้เองโดยไม่ต้องอาศัยบริบททางสังคมมาขัดเกลา นางมีมี่ไข่ตัวร้ายก็กลายเป็นแม่ที่น่าสงสารได้

แต่อย่างที่บอกว่านี่คือหนังปี 1968 ต่อให้ไม่เชื่อในความเป็นแม่เราก็ยังอดลุ้นเอาใจช่วย นร้องให้น้ำตาแตกไม่ได้ เมื่อผู้กำกับจริงใจในเรื่องที่ตัวเองเล่า แล้วเล่าอย่างเต็มที่ ในทุกๆฉาก นี่คือหนังแบบที่เป็นละครหลังข่าว ที่ทำได้ดีทำได้ถึงเอามากๆ

น่าอับอายเหลือเกินที่เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหนังพม่าในยุคนั้น (นี่ยังไม่นับว่า นี่ไม่ใช่หนังดังทสุดของThu Ka )

Leave a comment